สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 29 มีนาคม - 4 เมษายน 2562

 

ข้าว
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 การตลาด
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/62
มติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 เห็นชอบในหลักการมาตรการฯ ด้านการผลิตและการตลาด ทั้งหมด 10 โครงการดังนี้
(1) ด้านการผลิต* ได้แก่
1) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่)
2) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์
3) โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง
4) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแม่นยำสูง (Precision Farming)
5) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ
6) โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข 43 เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร
7) โครงการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง
หมายเหตุ * ด้านการผลิต เป็นโครงการที่หน่วยงานดำเนินการตามปกติ จึงไม่นำเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณามาตรการฯ
(2) ด้านการตลาด
- มติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 อนุมัติการดำเนินโครงการและวงเงินงบประมาณที่ใช้ช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 ด้านการตลาด จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
1)โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว
2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร
3) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
- มติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 อนุมัติทบทวนมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2561/61 ตามมติคณะกรรมการ นบข. เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้
(1) กรณีเกษตรกรฝากเก็บข้าวไว้ที่สหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกร ให้ปรับปรุงให้ค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก
ตันละ 500 บาท ปรับเป็น “ให้เกษตรกรได้รับตันละ 1,000 บาท และสหกรณ์ได้รับตันละ 500 บาท”
(2) เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกหลักประกันไว้ในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บของตนเองเท่านั้น
(3) ปรับปรุงวิธีการเก็บรักษาข้าวเปลือกของสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกโดยบรรจุข้าวเปลือกในกระสอบป่านหรือถุง Big bag และวางเรียงในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บเพื่อสะดวกในการตรวจสอบ หรือเก็บข้าวในยุ้งฉางที่ยกพื้นสูงหรือไซโล (SILO) ยกเว้นกรณีเทกองจะต้องมีระบบการระบายอากาศ เพื่อการรักษาคุณภาพข้าวเปลือกไม่ให้เสื่อมสภาพตลอดระยะเวลาโครงการ
1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 15,675 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 15,641 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.22
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 7,712 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 7,654 บาท  
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.77
2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 34,050 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,670 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 11,450 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.92
3) ราคาส่งออกเอฟโอบี
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา
ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 31.4921
 
2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
ไทย
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในช่วงครึ่งปีแรก มีบางเดือนที่ขยายตัวบางเดือนหดตัวสลับกันไป
ทำให้คาดว่าการส่งออกในช่วงไตรมาสที่ 1/2562 จะหดตัว และมีความเป็นไปได้ที่ตลอดช่วงครึ่งปีแรกจะหดตัว โดยในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกน่าจะปรับตัวดีขึ้น การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนน่าจะได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยอุปสงค์ในประเทศขยายตัวตามดัชนีการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่องในทุกหมวดการใช้จ่าย และการจ่ายจากภาครัฐที่ขยายตัวจากรายจ่ายประจำ แต่ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวลงเล็กน้อยตามการลงทุนในหมวดก่อสร้าง ส่วนภาคการท่องเที่ยวทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกสินค้ายังหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 1.7 จากเดือนที่ผ่านมา ที่หดตัวร้อยละ 4.8
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าว รายงานว่า การส่งออกขาวในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
มีปริมาณ 687,560 ตัน มูลค่า 11,694 ล้านบาท ทั้งปริมาณและมูลค่าลดลงร้อยละ 27.7 และร้อยละ 23.5 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม เนื่องจากการส่งออกข้าวทุกชนิดมีปริมาณลดลงในเดือนมกราคม โดยในเดือนกุมภาพันธ์ส่งออกข้าวขาวมีปริมาณ 326,029 ตัน ซึ่งลดลงร้อยละ 40.7 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศฟิลิปปินส์ โมซัมบิก แองโกลา และมาเลเซีย เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวนึ่งมีปริมาณ 194,902 ตัน ซึ่งลดลงร้อยละ 13.8 โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังตลาดในแอฟริกา เช่น เบนิน แอฟริกาใต้ เยเมน และแคเมอรูน เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 99,147 ตัน ซึ่งลดลงร้อยละ 6.2 โดยตลาดหลักยังคงเป็น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และแคนาดา เป็นต้น สาเหตุหนึ่งมาจากราคาข้าวไทยยังคงสูงกว่าประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนามที่เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวฤดูหนาว-ฤดูใบไม้ผลิเสร็จสิ้นไป ทำให้อุปทานข้าวในประเทศมีปริมาณมาก ส่งผลให้ราคาข้าวของเวียดนามยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาข้าวไทยประมาณ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ผู้ซื้อบางส่วนหันไปซื้อข้าวจากเวียดนามมากขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
 
เวียดนาม
ภาวะราคาข้าวขาว 5% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรงตัวอยู่ที่ตันละ 360 ดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางสภาวการณ์ค้า
ที่ชะลอตัว เนื่องจากมีความต้องการข้าวจากต่างประเทศลดลง ขณะที่วงการค้าข้าว ระบุว่าผู้ซื้อจากฟิลิปปินส์ซึ่งเป็น
ผู้นำเข้าสำคัญ ได้ทำสัญญาซื้อข้าวจากเวียดนามครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว และยังไม่มีแผนซื้อเพิ่มเติมในช่วงนี้ ขณะที่คำสั่งซื้อจากจีนยังมีไม่มากนัก
กระทรวงเกษตรฯ (Ministry of Agriculture and Rural Development) รายงานโดยอ้างข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ (Vietnam' General Statistics Office; GSO) ว่า ในเดือนมีนาคมมีการส่งออกข้าวประมาณ 600,000 ตัน มูลค่าประมาณ 256 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคาดว่าช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) มีการส่งออกประมาณ 1.31 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งปริมาณและมูลค่าลดลงร้อยละ 11.5 และร้อยละ 23.6 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญ ประกอบด้วย จีน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ขณะที่เวียดนามกำลังเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวไปยังฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ไอวอรี่โคสต์ โมซัมบิก เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ และประเทศในทวีปแอฟริกาด้วย
โดยปีนี้ เวียดนามตั้งเป้าส่งออกข้าวไว้ที่ประมาณ 6-7 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ส่งออกประมาณ 6.1 ล้านตัน มูลค่ากว่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
 
กัมพูชา
นายกรัฐมนตรี Hun Sen กล่าวในที่ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน (Government-Private Sector Forum) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลกัมพูชามีแผนจะยกเลิกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (the Value Added Tax; VAT) สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรหลายชนิด เช่น ข้าวสาร ข้าวโพด มันสำปะหลัง และพริกไทย เป็นต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพ
การแข่งขันในตลาดโลกของสินค้าเกษตรกัมพูชา
ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่า มาตรการดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ประกอบการในประเทศมีต้นทุนการผลิตที่ลดลง มีผลกำไรมากขึ้น จากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ภาคการเกษตรมีการเติบโตช้าลง จากภาวะที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะปฏิรูปในหลายส่วน เพื่อให้การส่งออกมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น รวมถึงการยกเลิกหน่วยงาน (จุดตรวจชายแดน) ที่ทำหน้าที่ด้านการตรวจสอบคุณภาพ และมาตรฐานสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออก (Camcontrol) ที่อยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ และการยกเลิกหน่วยงาน the Kampuchea Shipping Agency and Brokers ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม Kamsab ด้วย
ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย


กราฟราคาที่เกษตรกรขายได้ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% และราคาขายส่งตลาด กทม. ข้าวสารเจ้า 5%
 
 


ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ 
ราคาข้าวโพดภายในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ มีดังนี้
ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.94 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 8.06 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.49 และราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นเกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.23 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 6.37 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.20
ราคาข้าวโพดขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.94 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 8.95 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.11 และราคาขายส่งไซโลรับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.15 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 8.16 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.12
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 295.00 ดอลลาร์สหรัฐ (9,290 บาท/ตัน) ลดลงจากตันละ 295.60 ดอลลาร์สหรัฐ (9,294 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.20 และลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 4 บาท
ราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดชิคาโกเดือนพฤษภาคม 2562 ข้าวโพดเมล็ดเหลืองอเมริกันชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 361.44 เซนต์ (4,542 บาท/ตัน) ลดลงจากบุชเชลละ 376.52 เซนต์ (4,723 บาท/ตัน)ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 4.01 และลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 181 บาท


 


มันสำปะหลัง

สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
การผลิต
ผลผลิตมันสำปะหลัง ปี 2562 (เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – กันยายน 2562) คาดว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.72 ล้านไร่ ผลผลิต 31.55 ล้านตัน ผลผลลิตต่อไร่ 3.62 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.33 ล้านไร่ ผลผลิต 29.37 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.53 ตัน พบว่า พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ สูงขึ้นร้อยละ 4.68 ร้อยละ 7.42 และร้อยละ 2.55 ตามลำดับ โดยเดือนมีนาคม 2562 คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 8.25 ล้านตัน (ร้อยละ 26.15 ของผลผลิตทั้งหมด) ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2562 จะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2562 ปริมาณ 21.14 ล้านตัน (ร้อยละ 67 ของผลผลิตทั้งหมด)
การตลาด
ผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดมาก แต่ราคามันสำปะหลังยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้หัวมันสำปะหลังส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่โรงงานแป้งมันสำปะหลัง สำหรับลานมันเส้นเปิดดำเนินการไม่มาก
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.15 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.29 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 5.25 บาท
ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.76
ราคาขายส่งในประเทศ
ราคาขายส่งมันเส้น (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.29 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 6.32 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.48
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชั้นพิเศษ (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต กรุงเทพและปริมณฑล) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 13.75 ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาส่งออกมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 220 ดอลลาร์สหรัฐฯ (6,928 บาทต่อตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน (6,917 บาทต่อตัน)
ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 463 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14,580 บาทต่อตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน (14,557 บาทต่อตัน)
                                                                                                                           

 


ปาล์มน้ำมัน
 
 


อ้อยและน้ำตาล
1. สรุปภาวะการผลิต  การตลาดและราคาในประเทศ 
          รายงานการผลิตน้ำตาลทรายของโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ
          ศูนย์บริหารการผลิต สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้รายงานการเก็บเกี่ยวอ้อยและการผลิตน้ำตาลทรายตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2562 ว่ามีอ้อยเก็บเกี่ยวเข้าโรงงานน้ำตาลไปแล้วจำนวน 126,691,277 ตัน ผลิตเป็นน้ำตาลได้ 13,988,345 ตัน แยกเป็นน้ำตาลทรายดิบ 11,014,415 ตัน และน้ำตาลทรายขาว 2,973,930 ตัน ค่าความหวานของอ้อยเฉลี่ย 12.60 ซี.ซี.เอส. ผลผลิต   น้ำตาลทรายเฉลี่ยต่อตันอ้อย 110.41 กก.ต่อตันอ้อย


2. สรุปภาวการณ์ผลิตการตลาดและราคาในต่างประเทศ         

          


 

 
ถั่วเหลือง

1. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วเหลืองชนิดคละ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 16.75 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 15.95 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 5.02
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งถั่วเหลืองสกัดน้ำมัน สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
                   
2. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาในตลาดต่างประเทศ
ราคาในตลาดต่างประเท(ตลาดชิคาโก)
ราคาซื้อขายล่วงหน้าเมล็ดถั่วเหลือง สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 896.92 เซนต์ (10.52 บาท/กก.) ลดลงจากบุชเชลละ 897.48 เซนต์ (10.51 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.06
ราคาซื้อขายล่วงหน้ากากถั่วเหลือง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 309.88 ดอลลาร์สหรัฐฯ (9.89 บาท/กก.) ลดลงจากตันละ 310.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ (9.89 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.17
ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันถั่วเหลืองสัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 28.78 เซนต์ (20.25 บาท/กก.) สูงขึ้นจากปอนด์ละ 28.72 เซนต์ (20.17 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.21

 
 

 
ยางพารา

 

 
สับปะรด



 

 
ถั่วเขียว
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดใหญ่คละ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 23.98 บาท ลดลงจากราคากิโลกรัมละ 24.19 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 0.87
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดเล็กคละ และถั่วเขียวผิวดำคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 27.80 บาท สูงขึ้นจากราคากิโลกรัมละ 27.00 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.96
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 25.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 24.80 บาท สูงขึ้นจากราคากิโลกรัมละ 24.00 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.33
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 15.60 บาท สูงขึ้นจากราคากิโลกรัมละ 14.00 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 11.43
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 27.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี        
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 913.80 ดอลลาร์สหรัฐ (28.78 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 889.00 ดอลลาร์สหรัฐ (27.95 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.79 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.83 บาท
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 824.40 ดอลลาร์สหรัฐ (25.96 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจากตันละ 825.60 ดอลลาร์สหรัฐ (25.96 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.15 แต่ในรูปเงินบาททรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 818.00 ดอลลาร์สหรัฐ (25.76 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 889.00 ดอลลาร์สหรัฐ (27.95 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.07 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.81 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 524.20 ดอลลาร์สหรัฐ (16.51 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 473.40 ดอลลาร์สหรัฐ (14.88 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 10.73 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 1.63 บาท
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 881.60 ดอลลาร์สหรัฐ (27.76 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจากตันละ 883.00 ดอลลาร์สหรัฐ (27.76 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.16 แต่ในรูปเงินบาททรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน


 

 
ถั่วลิสง
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ความเคลื่อนไหวของราคาประจำสัปดาห์ มีดังนี้ 
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกแห้ง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.73 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 61.16 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อย 2.57
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.81 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 27.12 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อย 1.14
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดพิเศษ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดธรรมดา สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน


 

 
ฝ้าย
 
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
          ราคาที่เกษตรกรขายได้
          ราคาฝ้ายรวมเมล็ดชนิดคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้าตลาดนิวยอร์ก (New York Cotton Futures)
          ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้า เพื่อส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2562 สัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 77.37 เซนต์ (กิโลกรัมละ 54.44 บาท) สูงขึ้นจากปอนด์ละ 76.97 เซนต์ (กิโลกรัมละ 54.06 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.52และสูงขึ้นในรูปของเงินบาทกิโลกรัมละ 0.38 บาท

 

 
ไหม
 
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,612 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1,681บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา  ร้อยละ 4.10
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,301 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1,347 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา   ร้อยละ 3.41
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 3 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ  842 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา


 

 
ปศุสัตว์
 
สุกร
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ  
สถานการณ์สัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะอากาศที่เริ่มร้อนขึ้นทำให้สุกรเจริญเติบโตช้า ส่งผลให้ปริมาณสุกรออกสู่ตลาดไม่มากนัก  แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือสูงขึ้นเล็กน้อย  
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ  67.88 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 67.18 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.04   โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 66.52 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 64.01 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 68.93 บาท  และภาคใต้ กิโลกรัมละ 71.17 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้  ตัวละ 2,100 บาท (บวกลบ 70 บาท)  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา    
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิต ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 73.50  บาท  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา

 
ไก่เนื้อ
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
ในสัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้ทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา  เนื่องจากผลผลิตไก่เนื้อออกสู่ตลาดใกล้เคียงและสอดรับกับความต้องการบริโภค แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัว
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 36.75 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา    โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 35.00 บาท  ภาคกลาง กิโลกรัมละ 36.64 บาท ภาคใต้ กิโลกรัมละ 40.10 บาท  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 11.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา  
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตหน้าโรงฆ่า จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ  34.50 บาท  และราคาขายส่งไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 47.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา

 
ไข่ไก่
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ   
ภาวะตลาดไข่ไก่สัปดาห์นี้ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้เริ่มปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา  เนื่องจากผลผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดใกล้เคียงกับความต้องการบริโภคไข่ไก่ที่เริ่มมีมากขึ้น  แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือสูงขึ้นเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 263 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 261 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.77  โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 289 บาท  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 279 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 250 บาท  และภาคใต้ไม่มีรายงาน  ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 10.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา   
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่ไก่ (เฉลี่ยเบอร์ 0-4) ในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 281 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 261 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา  ร้อยละ 7.66

 

ไข่เป็ด

ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ  326 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 324 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.62 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 340 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 332 บาท ภาคกลาง ร้อยฟองละ 301 บาท และภาคใต้ ร้อยฟองละ 370 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่เป็ดคละ ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 340 บาท  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา

 
โคเนื้อ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ  
ราคาโคพันธุ์ลูกผสม (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 89.24 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 89.20 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.04 โดยเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 85.07 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 85.07 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 87.63 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 101.72 บาท

 
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 69.13 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 69.56 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.62 แยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 90.72 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 64.97 บาท ภาคกลางและภาคใต้ไม่มีรายงานราคา

 
 


 
ประมง

1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต

เปลี่ยนถ่ายกระชังลูกใหม่หรือเพิ่มออกซิเจนในน้ำนช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่น้ำตาย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนบวกกับออกซิเจนในน้ำค่อนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 4 เมษายน 2562) ไม่มีรายงานปริมาณจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย (ขนาด 3-4 ตัว/กก.)
ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 48.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 42.80 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 5.20 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯเฉลี่ยกิโลกรัมละ 70.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.2 ปลาช่อน (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 85.01 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 87.39 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.38 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.3 กุ้งกุลาดำ
ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัมและราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม
ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัมเฉลี่ยกิโลกรัมละ153.07 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 151.12 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.95 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาครขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 139.17 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 140.71 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.54 บาท
2.5 ปลาทู (ขนาดกลาง)
ราคาปลาทูสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 82.35 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 85.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.6 ปลาหมึกกระดอง (ขนาดกลาง)
ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 146.00 บาท บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 145.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 260.00 บาท ราคา  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น
ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.06 บาท ราคา ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 4 เมษายน 2562) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 25.29 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 25.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.29 บาท